๑. กรณีภาพที่ปรากฏเป็นหลักฐานพิจารณาที่ดินธรณีสงฆ์ บริเวณเกาะดอนสวรรค์ มีภาพสองภาพ จากหนึ่งเขียนว่า “หนองหาญ จังหวัดสกลนคร” (จากรายงานกรมทาง พ.ศ.๒๔๖๔) สภาพหนองหารจากหนังสือเก่าภูมิศาสต์สยาม
ภาพบนเป็นภาพทิวทัศน์ ภาพล่างเป็นภาพหลักหมุดคอนกรีตเขียนว่า “หมุดหลักถาน ร.๓ ความสูง 159.19 พ.ศ.๒๔๗๗
และเขียนว่าเป็นหลักฐานที่พบที่อุโบสถร้างบนเกาะดอนสวรรค์ ทั้งนี้หมุดหลักฐานดังกล่าวน่าจะใช้สำหรับการสำรวจทำแผนที่บอกตำแหน่งที่ปรากฏเหนือจากระดับน้ำทะเลของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง ทั้งสองภาพมิได้แสดงว่าเป็นหลักฐานว่าที่ดินนี้เป็นที่ธรณีสงฆ์หรือพื้นที่ซึ่งเคยเป็นวัดร้างมาก่อนแต่อย่างใด
๒. ทะเบียนที่ดินวัดร้างที่ไม่ตรงกันตามช่วงเวลา โดยไม่มีกระบวนการตรวจสอบหรือหลักฐานการกำหนดเขตวัดร้างดอนสวรรค์ว่าเกิดขึ้นเมื่อใดและดำเนินการอย่างไร
แผ่นแรกคือ “ทะเบียนที่ดินตามศาสนสมบัติกลางและที่ดินวัดร้าง” ปรากฏชื่อ “วัดดอนสวรรค์” ตำบลธาตุเชิงชุม อำเภอเมืองสกลนคร ไม่ปรากฏเนื้อที่ หรือหลักฐานที่ดินแต่อย่างใด
แผ่นที่สองคือ บัญชีที่วัดร้างและที่ดินสมบัติกลาง จังหวัดสกลนคร คณะกรรมการศาสนาจังหวัดสกลนคร ให้ความเห็นชอบประชุมครั้งที่ ๒/๒๕๔๔ กลุ่มส่งเสริมการศาสนาและวัฒนธรรม สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดสกลนคร ปรากฏชื่อดอนสวรรค์เป็นวัดในลำดับที่ ๑ ตำบลธาตุเชิงชุม อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร หลักฐานที่ดินไม่ปรากฏ แต่มีเนื้อที่ ๘๕ ไร่ หมายเหตุว่าที่สาธารณประโยชน์และมีพระสงฆ์
๓. มีข้อมูลเรื่องพื้นที่หนองหารนั้นมีหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวงซึ่งอธิบดีกรมที่ดินออกหนังสือสำคัญตามประมวลกฏหมายที่ดินฯ เพื่อแสดงเขตของที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินประเภท “พลเมืองใช้ประโยชน์ร่วมกัน” ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองสกลนคร ตำบลธาตุเชิงชุม อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร เนื้อที่ประมาณ ๗๖,๓๑๗ ไร่ อยู่ในความดูแลรักษาของกระทรวงมหาดไทย ออกเมื่อ ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๐
แต่ก็มีเอกสารจากทางราชการยืนยันเรื่องระเบียบหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ทบวงการเมืองใช้ที่ดินของรัฐเพื่อประโยชน์ในราชการเมื่อ ๑๖ มกราคม ๒๕๔๖ โดยสรุปคือ ห้ามมิให้ทบวงการเมืองใด(หมายถึงหน่วยงานของรัฐใดๆ?) เข้าใช้ที่ดินของรัฐโดยพลการ หากพบมีการฝ่าฝืนให้ดำเนินการตามระเบียบที่กฏหมายกำหนดโดยเคร่งครัด แต่ถ้ามีการส่งเรื่องให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณาแล้วก็ต้องตรวจสอบและดำเนินการถอนสภาพที่ดินเสียทั้งหมดก่อนจึงดำเนินการต่อไป
“กรณีที่ดินที่อ้างว่าเป็นวัดร้างในดอนสวรรค์นั้น หากทำตามขั้นตอนก็ควรเพิกถอนจากที่สาธาณประโยชน์เสียก่อน แล้วจึงจะดำเนินการขึ้นทะเบียนเป็นวัดร้างหรือออกโฉนดใดๆ เพื่อเป็นศาสนสมบัติกลางได้”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น