วันพฤหัสบดีที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2555

ดอนสวรรค์ในบางแง่มุม

ภาพถ่ายทางอากาศของกรมแผนที่ทหาร หนองหารและเมืองสกลนครก่อน พ.ศ.๒๕๐๐ พบเห็นดอนหรือเกาะในหนองหารชัดเจนหลายแห่ง แต่ดอนที่ใหญ่ที่สุดและเต็มไปด้วยป่าไม้หนาแน่นคือ "ดอนสวรรค์" ที่อยู่ทางมุมด้านขวา ส่วนเมืองเก่าสกลนครที่เป็นรูปสี่เหลี่ยมเกือบจัตุรัสนั้นก็ยังเห็นขอบเขตของแนวกำแพงที่มีสองชั้นอย่างชัดเจน สภาพของหนองหารยังมีน้ำขึ้นลงตามฤดูกาลและมีความอุดมสมบูรณ์สูงสุด




ส่วนภาพถัดมาเป็นภาพถ่ายทางอากาศของกรมแผนที่ทหารราวๆ พ.ศ.๒๕๔๐ หนองหารถูกปรับเปลี่ยนจากประตูกั้นน้ำแล้ว แนวขอบเขตของกำแพงเมืองถูกรื้อหายไป แทนที่ด้วยแนวถนนในปัจจุบันจนแทบไม่เหลือร่องรอยบนพื้นดิน ดอนสวรรค์ทางด้านบนขวามือนั้นพื้นที่ป่าไม้หายไปจนเหลือน้อยเต็มที สภาพน้ำในหนองหารดูตื้นเขินด้วยน้ำที่ไม่ได้ไหลหมุนเวียนตามธรรมชาติ และหนองหารอยู่ในสภาพกำลังถดถอยและมีปัญหาในเรื่องระบบนิเวศน์





ภาพที่ถ่ายไว้เมื่อราว พ.ศ.๒๕๐๙ เห็นว่า หนองหารและดอนสวรรค์ยังมีหาดทรายขาว น้ำใส เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวพักผ่อนสำหรับครอบครัวผู้คนในเมืองสกลนครซึ่งเป็นที่นิยม ในภาพจากเป็นผู้ใหญ่ของคุณประสาท ตงศิริ ภาพที่ถ่ายหน้าอุโบสถที่น่าจะเป็นหลังเดียวกับที่ระบุไว้ในราชกิจจานุเบกษาที่มีนายอำเภอเมืองสกลนครเรี่ยไรเงินเพื่อสร้างหลังนี้ ในช่วงเวลาที่ผ่านไปราว ๓๗ ปี ก็น่าจะมีสภาพเช่นที่เห็นอยู่ อาคารหลังนี้ปัจจุบันไม่พบว่ามีอยู่แล้ว และไม่ทราบว่าถูกรื้อไปตั้งแต่เมื่อใด ท่านคาวี คำสร้อย กล่าวในเฟสบุ๊คอธิบายเพิ่มเติมอ้างอิงว่า ไฟไหม้ศาลาวัดที่ดอนสวรรค์ เอกสารต่างถูกไฟไหม้หมด คือที่มาของการขอยกวัดร้างดอนสวรรค์เป็นวัดที่มีพระสงฆ์จำพรรษา ดำเนินการมาตั้งแต่ "พระเทพวิมลเมธี(วันดี) เจ้าอาวาสวัดพระธาตุเชิงชุม และมีพระสงฆ์เข้าไปดูแล แต่ท่านกล่าวว่าเมื่อก่อนนั้นสงฆ์ชาวสกลดำเนินการอย่างไร ชาวบ้านรู้เห็นและเข้าใจ แต่ปัจจุบันการกระทำนี้ทำให้ชาวสกลนครเกรงว่าการดำเนินการดังกล่าวจะนำไปสู่การกระทำเชิงพุทธพานิชย์ แต่ท่านก็ไม่ทราบว่าสิมหรือพระอุโบสถนี้สูญหายไปได้อย่างไร

เมือสิมเก่าถูกรื้อไปแล้ว จึงมีการสร้างใหม่ขึ้นเมื่อประมาณ ๒๕๓๔ และแก้ไขเพิ่มเติมหลายครั้งจนเป็นเช่นนี้ บางท่านกล่าวว่า โดยการนำของพระสมชาย พระสมนึก และพระสังข์ จากกรุงเทพฯ มีการสนับสนุนการสร้างพระประธานและการก่อสร้างจากร้านประกายการค้า สร้างพระประธาน พระพุทธประกายธรรม



ดอนสวรรค์เป็นที่สาธารณประโยชน์ที่ทุกคนมีสิทธิใช้ได้ในกรอบของกฎหมายที่ไม่รุกล้ำพื้นที่โดยอ้างสิทธิหรือใช้ประโยชน์แต่เพียงฝ่ายเดียว หรือถือเป็นของตนเอง ภาพบนเป็นช่วงปีสุดท้าย พ.ศ.๒๕๑๒ ที่มีการฉลองสงกรานต์ของคนสกลนครที่ดอนสวรรค์ หลังจากยกเลิกไปเพราะการตีกันและเรือล่มมีคนเสียชีวิตไป ๓-๔ ศพ

ดอนสวรรค์หรือพื้นที่หนองหารเป็น "ทรัพย์สินส่วนรวม" ที่เป็นของแผ่นดินหรือสมบัติกลาง คณะสงฆ์หรือทางผู้สร้างสิมหรือโบสถ์ก็ไม่เคยคิดเข้าครอบครองแม้แต่กล่าวถึงอาณาเขตพื้นที่ความเป็นวัดไว้แต่อย่างใด แต่ในปัจจุบันในยุคสมัยที่ที่ดินมีค่ามาก การออกเอกสารสิทธิ์ให้ขอบเขตของวัดร้างที่ไม่เคยมีอาณาเขตให้ครอบคลุมพื้นที่ทั้งเกาะทั้งดอนสวรรค์นั้นถือว่าเป็นสิ่งผิดปกติที่ไม่สมควรยอมรับได้







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น